วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เช็ก 4 นิสัยก่อนกลายเป็นคนช่างนินทา

มาอีกแล้วค่ะ บทความเกี่ยวกับสุขภาพจิต โดยส่วนตัวแล้วชอบอ่านบทความประเภทนี้ เพราะถ้าสุขภาพจิตดี มันจะส่งผลออกมาทางหน้าตาผิวพรรณของเราค่ะ (จริงๆนะไม่ได้โกหก)

ขอบคุณภาพจากเนตค่ะ


การพูดคำเท็จ ส่อเสียด นินทา ถือเป็นการผิดศีลข้อที่ 4 เรามารู้จัก 4 นิสัย พื้นฐานที่อาจทำให้คุณกลายเป็นคนช่างนินทา

1. ไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง เกิดจากจิตใต้สำนึกสะสมความคิดว่า ตัวเองเป็นคนไม่ดี ไม่มีความสามารถ ทำให้ชอบจับผิดหรือพูดถึงความไม่ดีของคนอื่น

2. ขึ้ระแวง เป็นคนที่ไม่มีความเชื่อถือศรัทธาในผู้คนด้วยกันไม่เชื่อมั่นในมิตรภาพ

3. จอมโกหก คนที่ชอบพูดโกหกมีแนวโน้มว่าจะเป็นคนช่างนินทาเพราะสามารถนำเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาเล่าเพื่อหาผลประโยชน์หรือสร้างความสนุกให้ตัวเอง

4. มองโลกในแง่ร้าย คนที่มองโลกในแง่ร้ายจะเห็นแต่ความไม่ดีของคนอื่น คนลักษณะนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นคนช่างนินทา

คิดดี พูดดี ช่วยสร้างพลังบวกให้แก่ชีวิตและสังคมค่ะ

บทความจาก นิตยสารชีวจิต วันที่ 16-31 กรกฎาคม 2555
ปีที่ 14, ฉบับที่ 331, หน้า 20.

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การใช้ชีวิต 6 ระดับ


เรื่องสุขภาพจิตกันบ้างนะคะ

เอามาฝาก ลองอ่านกันดูนะ แล้วคิดกันเล่นๆ ว่าตัวเองอยู่ในระดับไหน

1. การใช้ชีวิตตามความหวาดกลัว
คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในระดับนี้ การใช้ชีวิตในระดับนี้
การตัดสินใจในชีวิตไม่สนใจเรื่องถูกต้อง แต่สนใจในเรื่องถูกใจ
คิดแต่ความหวาดกลัว เช่น กลัวลูกน้องไม่รัก กลัวเพื่อนไม่คบ

2. การใช้ชีวิตตามกติกา
ในระดับสังคมบ้านเมือง เราใช้กติการในการดำเนินชีวิตมาก กติกาหลักๆ ที่เราใช้
มักจะเกี่ยวข้องอยู่กับ เรื่องสองสามเรื่องคือ "เงิน-เศรษฐศาสตร์"
เราจะคำนึงถึงความคุ้ม กำไรและมักใช้สิ่งนี้ เป็นเหตุผลในการตัดสินใจ "วิชา"
การตัดสินใจทำสิ่งใด อาศัยว่าได้เรียนมาอย่างไรก็ทำไปตามนั้น "กฎหมาย"
ชีวิตเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับกฎหมาย ดำเนินชีวิตไปตามกฎเกณฑ์ ที่กฎหมายกำหนดไว้

3. การใช้ชีวิตตามสำนึกที่ดี
ส่วนใหญ่แล้วเราใช้ชีวิตในระดับสำนึกที่ดี
แต่บางทีเราก็ท้อแท้ว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี เพราะเราทำดีแล้ว
เราหวังว่าเราควรจะได้อะไรตอบแทน ที่ไม่ได้ก็ผิดหวัง
แต่เมื่อเราได้พบเห็นคนที่เขาทุกข์ยาก ลำบากกว่าเรา เราเองก็อาจจะรู้สึกว่า
โชคดีเท่าไรแล้ว ที่เราได้ทำดี ได้ใช้ชีวิตที่ดี

4. การใช้ชีวิตตามความจริง
คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในระดับนี้ เป็นคนที่อยู่กับความจริงที่มันเป็นจริงๆ
คาดหวังให้ตรงกับความเป็นจริง ความจริงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องค้นหา
เพียงแต่อย่าใส่ความไม่จริงลงไป ถ้าเราใช้ชีวิตอย่าง ไม่เข้าใจความจริง
เราก็จะใช้ชีวิตไปตามแรงจูงใจ ด้วยอุดมคติ แรงจูงใจด้วยความคาดหวัง
ซึ่งเสี่ยงต่อความพลาดผิดหวัง ท้อแท้ และเสียใจ

5. การใช้ชีวิตด้วยความว่าง
เมื่อเราเริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่มันตกลงตรงหน้าเรา
เห็นว่าสิ่งทั้งหลายมันเปลี่ยนแปลง และมีวันตาย เห็นความจริงว่า มันสุขๆ ทุกข์ๆ
เมื่อเจอความทุก เราก็สามารถเผชิญหน้ากับมันได้ คนที่ใช้ชีวิตในระดับนี้
จะทำใจได้ว่าปัญหาเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นธรรมชาติที่ชีวิตต้องเจอ

6. ชีวิตที่หลุดพ้น
เป็นชีวิตที่แข็งแรง ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของความอยาก ความต้องการใดๆ
ที่เกินจำเป็น มองเห็นชีวิตตามความเป็นจริง เลือกใช้ชีวิตแต่ในสิ่งที่เป็นสาระ

*** ได้จาก หนังสือเรื่อง " แรงดลใจแห่งชีวิต " ผู้เขียนคือ คุณโสภณ สุภาพงษ์
ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า ส่วนมากเราจะใช้ชีวิตกันอยู่ที่ระดับที่ 1 - 4
ขึ้นอยู่กับว่า บุคคลนั้น ได้รับการอบรม และสั่งสมประสบการณ์ชีวิตมาอย่างไร..

5สูตรสวยด้วยมะเขือเทศ

มาต่อกันด้วยเรื่องสวยๆงามๆกันบ้างค่ะ สำหรับสาวๆที่ตามติดเทรนด์หน้าขาวใส เรามีเคล็ดไม่ลับมาฝาก ด้วยวัสดุธรรมชาติ ที่หาได้จากตู้เย็นในบ้านเรานี่ล่ะค่ะ





สูตรพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ "ผิวสวย ขาวใส อย่างเป็นธรรมชาติ"

เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่น่าลองมาก ๆ สูตรพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ อย่างที่รู้ ๆ กันดีว่าใบหน้าเป็นจุดเด่นที่สุดในร่างกายเพราะฉะนั้นการดูแลรักษาใบหน้าจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องที่จำเป็นและยังเป็นปัญหาที่ยุ่งอยากมาก ๆ ในการหาวิธีต่าง ๆ มาบำรุงผิวหน้า ไม่ว่าทำทรีทเมนท์ ยิงเลเซอร์ หรือว่าจะเป็นสาระพัดวิธีต่าง ๆ แต่วันนี้เรามีอีกหนึ่งวิธีทางธรรมชาติที่หาได้จากพืชพรรณใกล้ ๆ ตัวและก็มีใช้ในครัวเรือนกับ สูตรพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ จากการสำรวจพบว่ามะเขือเทศสุกมีสาร Licopersioin ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียช่วยรักษาสิวได้ดี รวมถึงมีวิตามินเอซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างผิวสุขภาพดีและยังช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินออกไป งั้นวันนี้เราไปดู สูตรพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ ที่จะช่วยให้ผิวของคุณขาวกระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติกันเลยดีกว่าค่ะ แล้วการดูแลรักษาผิวหน้าจะไม่ใช่เรื่องอยากของคุณอีกต่อไปค่ะ


สูตร 1 กระชับรูขุมขนด้วยมะเขือเทศและมะนาว

ผสมน้ำมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำมะนาวสด 2-4 หยด แล้วใช้สำลีชุบน้ำมะเขือเทศกับมะนาวที่ผสมไว้บนผิวบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วใช้น้ำอุ่นเกือบเย็นล้างออกเพื่อทำให้รูขุมขนหดตัวลงและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น


สูตร 2 รักษาสิวด้วยเนื้อมะเขือเทศ

ลองใช้วิธีนี้ในการรักษาสิวที่เรื้อรังไม่หายขาด บดมะเขือเทศสดแล้วทาให้ทั่วใบหน้าแล้วหลับตาพักผ่อนโดยทิ้งให้มะเขือเทศอยู่บนใบหน้าประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นเกือบเย็น ใช้วิธีนี้ทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ก็จะเห็นผล

สูตร 3 ล้างหน้าด้วยมะเขือเทศ

หั่นมะเขือเทศออกเป็นครึ่งลูกแล้วนำมาถูให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที พยายามถูในบริเวณที่เป็นสิวหัวดำมากกว่าที่อื่น แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นเกือบเย็น ใช้วิธีนี้เมื่อต้องการล้างหน้าพร้อมกระชับรูขุมขนและยังช่วยลดความมันส่วนเกินได้ด้วย

สูตร 4 กระชับรูขุมขนด้วยมะเขือเทศ

เป็นสูตรกระชับรูขุมขนแบบเย็นและอ่อนโยน โดยคั้นให้ได้น้ำมะเขือเทศสดพร้อม ดื่ม หั่นแตงกวาบางๆ แล้วบีบให้ได้น้ำแตงกวาลงไปในน้ำมะเขือเทศ คนให้เข้ากัน แล้วใช้สำลีทาให้ทั่วใบหน้า จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นพอสมควร ควรใช้วันละหนึ่งครั้งเพื่อให้ได้ผลดี


สูตร 5 พอกหน้าด้วยมะเขือเทศ

โดยนำมะเขือเทศสดไร้สารตกค้างมาปั่นให้ละเอียด (หรือคั้นสดๆ ก็ได้ หากไม่มีเครื่องปั่นผลไม้) นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ทำให้ใบหน้าแลดูสดใสเปล่งปลั่งขึ้นทันตา แต่สำหรับบางคนที่ไม่มีเวลาหรือขี้เกียจทำเองละก็ลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศมาใช้แทนก็ได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์ ค่ะ

Top 10 ผักริมรั้วเพิ่มอายุยืน

ขอต้อนรับสู่บล็อคเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและความสายความงามด้วยบทความที่เต็มไปด้วยสีเขียวชะอุ่มชุ่มชื่นด้วยผักใบเขียวที่หากินได้ง่าย และให้ประโยชน์มากมายเลยค่ะ


Top 10 ผักริมรั้วเพิ่มอายุยืน
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ใช้ค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) เพื่อวัดความสามารถของผักในการขจัดฟรีแรดิคัล หากค่ายิ่งสูง แสดงว่ายิ่งมีประสิทธิภาพในการต้านฟรีแรดิคัลมาก ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย และชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของความแก่

ครั้นย้อนมาดูในสวนบ้านเราก็พบสุดยอดผักไทยๆหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มความเป็นหนุ่มเป็นสาว โดยสามารถเรียงลำดับตามค่า ORAC จากมากไปหาน้อยได้ดังนี้

• ใบมันปู

• ยอดมะม่วงหิมพานต์

• ใบส้มแป้น

• เสม็ดชุน

• ผักสะเดา

• ผักเหลียง

• ผักชีล้อม

• ผักหนาม

• ผักพูม

• ผักกระเฉด


ยิ่งเป็นผักตามฤดูกาล และปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี รับรองว่าให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายสูงค่ะ  
ขอขอบคุณข้อมูลจากนิตยสารชีวจิตฉบับที่ 326 ค่ะ